จังหวัดสุราฎร์ธานี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก หรือที่เรียกกันว่า “กุ้นหลินเมืองไทย” เชื่อได้เลยว่าหลายคนที่มาเยือนแห่งนี้จะต้องตะลึงกับความงามของสถานที่แห่งนี้ กับบรรยากาศอ่างเก็บน้ำที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาหินปูน รูปร่างแปลกตาและสวยงาม ยิ่งช่วงเช้าจะมีหมอกลอยตามภูเขา ทำให้ความสวยงามเพิ่มขึ้นมาอีก
ก่อนลงเรือเที่ยวชมบรรยากาศภายในเขื่อน แนะนำให้ขึ้นมาจุดชมวิวที่สันเขื่อนก่อนครับ และควรมาถึงก่อน 6 โมงเช้า โชคดีจะได้เห็นหมอกลอยปกคลุมเหนือผืนน้ำ ได้บรรยากาศไปอีกแบบเหมือนมาเที่ยวภาคเหนือเลย
ภายในเขื่อนยังมีบริการแพที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวไว้อีกด้วย มีทั้งของเอกชล และของอุทยานไว้บริการ ราคาก็จะต่างกันออกไป มาเที่ยวแล้วควรนอนสักคืนสองคืนรับลองฟิน
บรรยากาศเขาหินปูนที่รายล้อมผืนน้ำถ้าไม่ค้างคืนสามารถนั่งเรือเที่ยวชมแบบไปกลับก็ได้นะครับ
อัตราค่าบริการเรือนำเที่ยวมีทั้งแบบไปกลับและค้างคืน ราคาขึ้นอยู่กับระยะทางที่ไป และที่พักมีเรือแบบ10 คน และ 20 คน จะต้องเหมาอย่างเดียวถ้ามากันน้อยคยอาจจะต้องหารกันเยอะพอสมควร มาเป็นกลุ่มก็ตกคนละไม่กี่ร้อยบาท
ประโยชน์
- การชลประทานเพื่อการเพาะปลูก ปริมาณน้ำที่ปล่อยจากเขื่อนให้ประโยชน์ต่อการเพาะปลูกพืช บริเวณสองฝั่งแม่น้ำในตอนล่าง เป็นผลให้พื้นที่ประมาณ 100,000 ไร่ ในเขตท้องที่ตำบลตาขุน อำเภอคีรีรัฐนิคม และอำเภอพุนพิน สามารถทำนาปรัง และปลูกพืชในฤดูแล้งได้ผลดี
- บรรเทาอุทกภัย การกักเก็บน้ำของเขื่อนในฤดูฝน จะช่วยลดความรุนแรงของสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ตอนล่างได้เป็นอย่างดี
- การประมง อ่างเก็บน้ำของเขื่อนรัชชประภาเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญ ทุกๆ ปี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ปล่อยพันธุ์ปลาและกุ้งเป็นจำนวนมากลงไปในอ่างเก็บน้ำ สามารถให้ผลผลิตทางด้านการประมงเฉลี่ยปีละ 300 ตัน ซึ่งเป็นการส่งเสริมรายได้ให้กับราษฎรในพื้นที่ได้อีกทางหนึ่ง
- การท่องเที่ยว ทัศนียภาพโดยรอบบริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ สวยสดงดงาม และสงบร่มรื่น เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวปีละกว่า 70,000 คน ให้เดินทางมาเยี่ยมชมเขื่อนรัชชประภา พื้นที่อ่างเก็บน้ำมีทัศนียภาพอันงดงาม ประกอบด้วยยอดเขาหินปูนที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมามากมาย จนได้รับฉายาว่า "กุ้ยหลินเมืองไทย" ซึ่งพื้นที่น้ำเกือบทั้งหมด อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก(เว้นเพียงพื้นที่น้ำในเขตทุ่นลอย อันได้แก่ รอบพระตำหนักเรือนรับรองที่ประทับ หน้าช่องระบายน้ำ และตลอดแนวสันเขื่อน อยู่ในความรับผิดชอบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย)
- การผลิตไฟฟ้า พลังน้ำจากเขื่อนสามารถนำมาผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ปีละ 315 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ช่วยเสริมระบบไฟฟ้าในภาคใต้ให้มั่นคงยิ่งขึ้น นอกจากนี้น้ำที่ปล่อยผ่านเครื่องผลิตไฟฟ้า ยังส่งต่อเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรม บริเวณพื้นที่ท้ายน้ำอีกด้วย
- แก้ไขน้ำเสียและผลักดันน้ำเค็ม สภาพน้ำที่มีบปริมาณน้อยของลำน้ำพุมดวง-ตาปี ในฤดูแล้ง ทำให้เกิดภาวะน้ำเน่าเสียได้ง่าย ขณะเดียวกันบริเวณปากแม่น้ำจะมีน้ำเค็มรุมล้ำเข้ามาตามลำน้ำ น้ำที่ปล่อยจากเขื่อนรัชชประภาจะช่วยเจือจางน้ำเสียในลำน้ำ และต้านทานการรุกล้ำของน้ำเค็มที่ปากแม่น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาพแพพันวารีย์
ที่พัก แพภูตะวัน
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
ธรรมชาติท่ามกลางผืนน้ำสีเขียว - แพภูตะวัน เขื่อนรัชชประภา สุราษฎร์ธานี
แพภูตะวันตั้งอยู่ในบริเวณเขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลานในจังหวัดสุราษฎร์ธานีห้อมล้อมด้วยภูเขาหินปูนที่สูงชันอยู่ในเขื่อน มีรูปร่างต่างๆ แปลกตาสวยงามตามธรรมชาติ ล้อมรอบไปด้วยผืนน้ำที่กว้างใหญ่ น้ำใสและมีความลึก และด้วยระดับความลึกที่มาก ประกอบกับสีของตะไคร่น้ำที่อยู่เบื้องล่าง ทำให้น้ำในเขื่อนมีสีเขียวเข้มเหมือนสีมรกต ดูอบอุ่นเย็นสบาย เหมาะจะมาเที่ยวพักผ่อน
“ภูตะวัน” ชื่อนี้ได้แรงบันดาลใจจากคุณกา – จันทร์จิรา วัญญา ผู้ริเริ่มกิจการแพแห่งนี้ร่วมกับคุณแป๊ะ – ณรงค์ฤทธิ์ ทองมุสิทธิ์ ทั้งสองเริ่มทำธุรกิจแพแห่งนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2549 เดิมแพแห่งนี้ใช้ชื่อว่า “แพคลองมุย” แต่ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “แพภูตะวัน” เพราะมีที่ตั้งที่ห้อมล้อมด้วยภูเขาทั้ง 4 ด้าน เป็นภูมิประเทศที่มีความสวยงามมากในเขื่อนแห่งนี้ และเมื่อยามเย็นดวงอาทิตย์ตกบริเวณภูเขาด้านหน้าแพพอดี จึงเกิดเป็นที่มาของชื่อ “แพภูตะวัน”
แรกเริ่มกิจการ แพแห่งนี้มีแพที่พักเพียง 8 หลัง พร้อมโรงอาหารหลังเล็กๆ รองรับได้เพียงไม่กี่สิบคน แขกต้องนั่งทานอาหารแบบโต๊ะญี่ปุ่น ซึ่งไม่เพียงพอต่อการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ต่อมากิจการแพแห่งนี้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น จึงได้สร้างแพใหม่ๆ เพิ่มขึ้น รวมจำนวน 32 หลัง และได้สร้างแพสำหรับต้อนรับหลังใหม่เพิ่มอีก 1 หลัง เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาที่นี่สม่ำเสมอและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ
จุดเด่นของแพภูตะวันในเรื่องของแพที่พักคือ ความแตกต่างของด้านหน้าแพ ที่แต่ละหลังจะมีการตกแต่งด้วยกระจกใส หันหน้าสู่ผืนน้ำสีเขียว ผู้มาพักจะสามารถชื่นชมทิวทัศน์อันงดงามของเขื่อนรัชชประภาได้จากภายในแพที่พัก รวมไปถึงเรื่องของอาหารซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปลาน้ำจืดจากเขื่อน รับประกันความสดของวัตถุดิบและความอร่อย ตามแบบฉบับรสชาติอาหารปักษ์ใต้ที่อร่อยและเข้ากับบรรยากาศของที่นี่เป็นอย่างดี
ไม่แปลกที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เคยแวะเวียนมาใช้บริการแพภูตะวัน ต่างหลงใหลในธรรมชาติและการบริการ ด้วยความเป็นกันเอง ทั้งเรื่องการเดินทาง ที่พัก อาหาร ฯลฯ ที่บริการประดุจดั่งญาติมิตร
แพภูตะวัน ตั้งอยู่ในเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) 365 หมู่ที่ 5 ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี 84 กม. ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 เมื่อถึงหลักกิโลเมตรที่ 58 เลี้ยวขวาเข้าไป 12 กม. การเดินทางจากท่าเรือสู่แพภูตะวัน ใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาทีเท่านั้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้บริการแก่นักท่องเที่ยว เช่น เรือบริการนำเที่ยว เสื้อชูชีพสำหรับเล่นน้ำและเรือคายักไว้บริการ
“แพภูตะวัน” บรรยากาศเรียบง่ายแสนสบาย ด้วยธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ผืนน้ำสีเขียวมรกต ทำให้อดใจไม่ไหวที่จะกระโดดเล่นน้ำจนฉ่ำอุรา
ติดต่อสำรองห้องพัก หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
แพภูตะวัน เขื่อนรัชชประภา สุราษฎร์ธานี
คุณแป๊ะ – ณรงฤทธิ์ ทองมุสิทธิ์ / คุณกา – จันทร์จิรา วัญญา
โทร : 081-606 9007, 086-281 9655
แฟกซ์ : 077-397 208, 077-346-051
|